กบข. และ กองทุนสงเคราะห์
ครูเอกชน
ครู วิชาชีพที่มีความสำคัญในสังคมไทย และมีความมั่นคงสูง ที่สำคัญคือเป็นอาชีพที่มีสวัสดิการรองรับ ซึ่งไม่จำกัดเพียงครูที่เป็นข้าราชการเพียงอย่างเดียว แต่ครูของโรงเรียนเอกชน ก็ยังได้รับสวัสดิการจากหน่วยงานเฉพาะที่ดีไม่แพ้กันด้วยค่ะ
กบข. คืออะไร ?
นอกจากจะเป็นงานที่มีความมั่นคง บำเหน็จบำนาญ ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ต้องการจะเข้ารับราชการ เพราะเป็นสวัสดิการที่ช่วยรับประกันอนาคตของชีวิตวัยเกษียณว่าจะมีเงินใช้ โดยมีกองทุนหลักที่เข้ามาดูแลเงินออม พร้อมทั้งมอบสิทธิประโยชน์
ต่างๆ ให้แก่ข้าราชการ ชื่อว่า กบข.
กบข. หรือ "กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ" เป็นองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ซึ่งทำหน้าที่ในการอำนวยสิทธิประโยชน์ในระบบบำเหน็จบํานาญของข้าราชการตามนโยบายการลงทุน บริหารฐานข้อมูลบัญชีของสมาชิก รวมถึงการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับกองทุน ให้สมาชิกสามารถวางแผนด้านการเงินได้ยังเป็นระบบ
ความน่าสนใจของ กบข.
เป็นกองทุนที่กำหนดให้ลูกจ้างต้องมียอดสะสมเงินอย่างน้อย 3% ของเงินเดือน โดยจะสามารถขอสะสมเพิ่มได้อีกไม่เกินทั้งสิ้นรวม 15% ของเงินเดือน ซึ่งเมื่อออมแล้ว ทางฝั่งนายจ้างหรือรัฐบาลจะเข้ามาช่วยสมทบยกระดับเพดานให้อีก 3% และอีก 2% สำหรับจ่ายในกรณีที่สมาชิกเกษียณอายุ และพ้นสภาพสมาชิก
ลักษณะการรับเงินของ กบข.
เมื่อถึงเวลาเกษียณตามอายุของนโยบายหน่วยงาน ผู้ที่ทำงานมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี จะได้สิทธิ์รับเงินส่วนแรกจากกระทรวงการคลังซึ่งสามารถเลือกได้ 2 รูปแบบคือ
บำเหน็จ = จะได้รับเฉพาะ เงินสะสม เงินสมทบ และผลตอบแทนจากกองทุน กบข.
บำนาญ = ได้รับสิทธิประโยชน์คล้ายกับบำเหน็จ แต่จะมีเงินชดเชยเพิ่มเข้ามาด้วย
กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชนคืออะไร ?
เนื่องจากนโยบายเงินบำนาญ และกองทุน กบข. เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับข้าราชการที่ทำงานกับหน่วยงานที่ขึ้นกับรัฐบาลเท่านั้น ผู้ประกอบอาชีพเป็นครูภายใต้สังกัดโรงเรียนเอกชน ก็ควรจะได้รับสวัสดิการคุ้มครองด้วยเหมือนกัน จึงเป็นที่มาของ " กองทุนสงเคราะห์ครู " ที่คอยคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือแก่ครูเหล่านี้ให้ได้รับสิทธิพื้นฐานต่าง ๆ อย่างครบถ้วน ตั้งแต่ กองทุนเลี้ยงชีพ สินเชื่อสวัสดิการ ค่าเทอมลูก และค่ารักษาพยาบาล
ความน่าสนใจของกองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน
ในกองทุนนี้จะมีส่วนที่เรียกว่า "เงินทุนเลี้ยงชีพ" ที่จะจ่ายให้แก่ผู้เกษียณออกจากงาน และผู้ลาออกจากการเป็นครูโดยไม่มีความผิด รวมถึงอยู่ในเกณฑ์ที่ตรงตามเงื่อนไขของกองทุน โดยคนที่จะเข้าเงื่อนไขจะต้องเข้ารับการบรรจุพร้อมกับส่งเงินสงเคราะห์ 3% เข้ากองทุนอย่างต่อเนื่อง
คุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับเงินจาก กองทุนสงเคราะห์ครูเอกชน
ผู้ที่จะได้รับเงินจะต้องส่งเงินเข้ากองทุนให้ครบจำนวน 120 งวด ซึ่งเมื่อส่งครบแล้ว ท่านจะได้รับเงินจากทั้ง 3 ส่วนคือ 3% ที่ส่งเองทุกเดือน 3% จากโรงเรียน และอีก 6% จากรัฐสนับสนุน
แต่ในกรณีที่ท่านส่งไม่ครบ 120 งวด แล้วไปขอเบิกเงิน ท่านจะได้รับเงินตามที่ส่งเอง 3% เท่านั้นค่ะ นอกจากว่าจะมีการส่งมาแล้วมากกว่า 60 งวดขึ้นไป แล้วลาออกจากการเป็นครู ก็จะสามารถส่งต่อให้ครบ 120 งวดได้ เพื่อรับเงินจากโรงเรียน 3% กับรัฐอีก 6% ซึ่งจะได้รับสิทธิ์นับถึงแค่งวดลาออกเท่านั้น
และนี่ก็คือระบบสวัสดิการที่รองรับผู้ประกอบวิชาชีพทั้งของสังกัดรัฐบาล และเอกชน ที่จะช่วยให้คุณภาพชีวิตมีความมั่นคงขึ้นอย่างที่ควรจะได้รับ โดยหากจะให้เทียบกันนั้นก็ถือว่าไม่ต่างกันมาก เพียงแต่ของ กบข.ดูจะได้รับสิทธิประโยชน์มากกว่า เนื่องจากมีแผนการลงทุนรองรับหลากหลาย และวงเงินตอบแทนค่อนข้างสูงค่ะ