หลักการเลือกหุ้นขั้นพื้นฐาน ที่ควรคำนึงเป็นอย่างแรก
การลงทุนในหุ้นของยุคปัจจุบันกลายเป็นสิ่งที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากกว่าในอดีต ทั้งความรู้ที่มีการแบ่งปันกันอย่างแพร่หลาย ความสำเร็จที่ถูกนำมาเผยแพร่บนโลกอินเทอร์เน็ต และเครื่องมืออำนวยความสะดวกอันทันสมัยใช้งานง่าย จึงทำให้การลงทุนในหุ้นเริ่มได้รับความสนใจกันมากขึ้น แต่หากตอนนี้เรามีทุนกับทรัพยากรพร้อมแล้ว เราควรจะเริ่มลงทุนกับหุ้น
ตัวไหนดีล่ะ
โดยวันนี้เราก็มีวิธีการหาหุ้นที่เหมาะสมกับตนเองมาฝากให้ผู้อ่านได้ศึกษากัน หากใครที่สนใจก็สามารถอ่านต่อกันได้เลยค่ะ
ข้อควรพิจารณาการเลือกหุ้น
1.ศึกษาบริษัทก่อนเริ่มลงทุน
การศึกษาบริษัทที่ต้องการลงทุน เป็นสิ่งแรกที่นักลงทุนในหุ้นทุกคนต้องทำ เพราะมันคือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้สามารถประมาณการอนาคตของการลงทุนได้อย่างรอบด้าน โดยจะตรวจสอบตั้งแต่ บริษัททำธุรกิจอะไร วางแผนหรือตั้งเป้าหมายไว้อย่างไร มีคู่แข่งมากน้อยเพียงใด ใครเป็นผู้ถือหุ้น สถานภาพการเงินภายใน ภาพลักษณ์ของแบรนด์ และทุกด้านอื่น ๆ ที่เจาะลึกได้ เพื่อประกอบการตัดสินใจ อีกทั้งเรายังสามารถเช็คผลประกอบการย้อนหลังได้อย่างต่ำ 5 ปี ทั้งหมดนี้จะช่วยให้รู้ว่าบริษัทมีศักยภาพอย่างไรตลอดหลายปีที่ผ่านมา
2.ประเมินราคาหุ้น
ส่วนใหญ่จะใช้การประเมินราคาจาก "อัตราส่วนราคาต่อกำไร" หรือ P/E (Price / Earning Per Share) โดยใช้เป็นเครื่องมือประเมินจุดคุ้มทุนว่า ต้องใช้เวลาเท่าไหร่จึงจะคืนทุนหุ้นตัวนั้นๆ ได้ โดยวิธีการประเมินเบื้องต้น จะนำค่า P/E ของหุ้นแต่ละตัว มาเปรียบเทียบกับ P/E เฉลี่ยของอุตสาหกรรม เพื่อดูว่า ราคาถูกกว่าหรือแพงเมื่อเทียบกับ บริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดย P/E ที่ต่ำกว่า หมายความว่าหุ้นมีราคาถูกกว่า แต่นี่เป็นเพียงการมองจากปัจจัยเดียวเท่านั้น เนื่องจาก เหตุผลที่หุ้นมี P/E ต่ำอาจมาจากความสามารถในการเติบโตที่ต่ำ เมื่อเทียบกับหุ้นที่มี P/E สูงก็เป็นได้ ดังนั้นจึงควรมองหลายๆปัจจัยประกอบกัน
3.ติดตามข้อมูลบริษัท และข่าวสารที่เกี่ยวข้อง
นอกจากการติดตามข่าวการดำเนินธุรกิจของหุ้นบริษัทแล้ว สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือการเข้าไปติดตามข้อมูลใน “บริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน” (Opportunity Day) ซึ่งจะเป็นการแจ้งแผนการดำเนินงานและทิศทางที่จะเกิดขึ้นต่อไป หลังจากประกาศงบการเงินของบริษัทเมื่อเข้าสู่ไตรมาสใหม่ รวมถึงการติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้นบนโลกก็เป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรพลาด โดยจะเน้นไปยังข่าวที่มีความเกี่ยวข้องกับตลาดที่บริษัทดำเนินกิจการอยู่ เนื่องจากเป็นสิ่งที่มีความผันผวนได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ ค่านิยม ความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี สภาพแวดล้อม หรือแม้แต่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นต้น เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ในอนาคต
5 Forces model ทฤษฎีที่ควรใช้พิจารณาหุ้น
หากข้อแนะนำที่กล่าวมายังไม่สามารถสร้างภาพรวมให้เห็นได้อย่างชัดเจน คุณสามารถหยิบนำหลักทฤษฎี 5 Forces model อันเป็นเครื่องมือที่ถูกใช้เพื่อวิเคราะห์การแข่งขันในตลาด มาประกอบได้ โดยประกอบไปด้วย
โดยการหยิบเครื่องมือข้างต้นมาใช้ จะช่วยให้สามารถพิจารณาถึง จุดเด่น - จุดด้อย ว่าบริษัทที่เราจะร่วมลงทุนมีความแข็งแกร่งที่จะทนต่อสภาวะเหล่านี้ได้นานมากแค่ไหน และยังพอมีโอกาสเติบโตต่อไปในอนาคตอยู่หรือไม่
อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้นก็ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาข้อมูลอีกมาก ประกอบกับการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ จึงจะช่วยลดความเสี่ยงในการขาดทุนได้มากยิ่งขึ้น ฉะนั้นสำหรับผู้เริ่มต้น
ก็ควรเริ่มลงทุนด้วยเงินเย็นในปริมานต่ำ เพื่อเป็นการชิมลางก่อนก้าวเข้าสู่สเต็ปถัดไปนั่นเองค่ะ