ลงทุนปี 2024 ใน
จีน อินเดีย และ เวียดนาม
อันไหนน่าลงทุนกว่ากัน
หากมองไปที่ตลาดการลงทุนของ สหรัฐอเมริกา ในปัจจุบันนับว่ามีแนวโน้มชะลอตัวและเข้าใกล้ภาวะถดถอยพอสมควร ซึ่งสวนทางกับความเติบโตทางฝั่งเอเชีย ที่มีราคาหุ้นค่อนข้างถูกสามารถดึงดูดความสนใจของนักธุรกิจได้มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยหากให้กล่าวถึงพื้นที่ที่กำลังเป็นผู้นำในซีกโลกตะวันออก ณ เวลานี้ ก็คงหนีไม่พ้น จีน อินเดีย และ เวียดนาม ที่กำลังร้อนแรง
สุด ๆ เลยค่ะ
และใครที่กำลังสนใจในเรื่องการลงทุนกับประเทศเหล่านี้ เรามาดูกันดีกว่าว่าสภาพเศรษฐกิจของพวกเขามีแนวโน้มที่จะเป็นอย่างไรในปี 2024 ที่ใกล้จะถึงนี้
จีน
จากปัญหาภายใน หนี้ของรัฐท้องถิ่น อสังหาริมทรัพย์ และการผลิต ส่งผลให้ทางรัฐบาลต้องเร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นผลดีต่อการลงทุนระยะยาวเพราะมีราคาหุ้นถูกเป็นพิเศษ แต่สำหรับการลงทุนระยะสั้นนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ากังวล เนื่องจากตลาดจีนในตอนนี้มีความผันผวนค่อนข้างสูง รวมถึงประเด็นความขัดแย้งกับ สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนตกต่ำลง
อินเดีย
GDP ของประเทศอินเดียมีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้นถึง 6-7% ต่อปี แรงกดดันเงินเฟ้อเองก็ต่ำกว่าในอดีตมาก รวมถึงการย้ายโรงงานการผลิตกลับมาตั้งถิ่นฐานในประเทศตนเอง จึงทำให้ในอนาคตมีแนวโน้มสูงที่ อินเดีย จะขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญกับ จีน อย่างสูสี แต่สิ่งที่ยังคงขวางไม่ให้พวกเขาตามจีนได้ทันในเวลานี้ ก็คือราคาหุ้นที่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูง ซึ่งถ้าหากต้องการจะลงทุนจริง ๆ ก็ควรรอให้มีการปรับฐานตลาดให้ดูเหมาะสมกว่านี้จะดีกว่าค่ะ
เวียดนาม
เวียดนามเองก็มีอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจที่ 6-7% ต่อปีเช่นเดียวกัน แรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อก็มีไม่มาก แถมอัตราดอกเบี้ยก็ยังมีการปรับตัวลงมาอีก การท่องเที่ยวเริ่มขยายตัว ที่สำคัญคือผลของสงครามเศรษฐกิจระหว่าง จีน กับ สหรัฐอเมริกา ทำให้มีนักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจที่จะย้ายฐานการผลิตมายังพื้นที่แห่งนี้ รวมถึงตลาดหุ้นเวียดนามก็มี P/E Ratio ต่ำเพียง 9 เท่า เท่านั้น มันจึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งกับผู้ที่ต้องการจะลงทุนกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดประเทศนี้
โดยรวมแล้วถือว่าการลงทุนในเวียดนามค่อนข้างมีความน่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งไม่ได้มีดีแค่อัตราการเติบโตเท่านั้น แต่ปัจจัยเสี่ยงที่น่ากังวลก็ยังน้อยกว่า จีน และ อินเดีย มากด้วย ซึ่งหากใครที่กำลังวางแผนการลงทุน ก็ถือว่าไม่ควรมองข้ามตลาดเวียดนามในเวลานี้อย่างยิ่งเลยค่ะ