เรื่องน่ารู้ของหุ้นกู้
สำหรับนักลงทุนมือใหม่
หุ้นกู้ เป็นตราสารหนี้รูปแบบหนึ่งที่ออกโดยบริษัทเอกชน มีจุดประสงค์เพื่อระดมทุนส่งเสริมกิจการให้เกิดการเติบโต อย่างเช่น การตั้งโรงงาน การขยายกิจการ หรือ การจัดซื้ออุปกรณ์ที่มีความทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบริษัท อีกทั้งหุ้นกู้ยังสามารถแบ่งออกเป็นหน่วยได้ ซึ่งในประเทศไทยได้กำหนดให้มีมูลค่า 1,000 บาทต่อหน่วย และส่วนใหญ่แล้วจะนิยมซื้อกันในมูลค่าขั้นต่ำที่ 100,000 บาทขึ้นไปค่ะ
ผลตอบแทนของหุ้นกู้เป็นแบบไหน ?
สำหรับผู้ที่ลงทุนในหุ้นกู้ จะได้รับผลตอบแทนกลับมาเป็นรูปแบบของ ดอกเบี้ย โดยจะจ่ายทุกครั้งเมื่อครบ 3 เดือน, 6 เดือน, หรือ 1ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละหุ้นกู้ แต่ผลตอบแทนของดอกเบี้ยในกลุ่มนี้จะต้องถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย เป็นจำนวน 15% ตามที่กฎหมายกำหนดเหมือนกับดอกเบี้ยชนิดอื่นค่ะ
ความเสี่ยงของหุ้นกู้
แม้ดูจะเป็นการลงทุนที่เรียบง่าย แต่ตราสารหนี้ชนิดนี้ก็มีความเสี่ยงไม่น้อยกว่าตราสารหนี้แบบอื่น ๆ โดยความน่ากังวลที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุด ก็คือความผันผวนในอัตราดอกเบี้ย ที่หากเพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลให้ราคาตลาดของหุ้นกู้ลดลง และยังต้องประเมินว่าบริษัทมีแนวโน้มจะขาดสภาพคล่องด้วยหรือไม่ ที่สำคัญคือเมื่อเทียบกับพันธบัตรรัฐบาลแล้ว หุ้นกู้ยังถือว่ามีโอกาสผิดชำระหนี้สูงกว่าอีกด้วย
ทำไมจึงไม่ควรลงทุนในหุ้นกู้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่า BBB
หุ้นกู้เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบจาก Credit Rating หรือ "การจัดอันดับเครดิต" ซึ่งช่วยให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมชนิดนี้ไม่ว่าจะ นักลงทุน ผู้ออกตราสาร และ ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ประเมินความเสี่ยงในการเปรียบเทียบกับตราสารอื่นได้ โดยมีตั้งแต่ระดับ D จนถึง AAA
ทั้งนี้ควรลงทุนในหุ้นกู้ที่ถูกจัดอันดับเครดิตตั้งแต่ BBB ขึ้นไป เนื่องจาก อันดับเครดิต BBB ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มความเสี่ยงและความสามารถในการชำระหนี้อยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งหากต่ำกว่านั้นจะมีความเสี่ยงต่อการผิดชำระหนี้ค่อนข้างสูง และมักจบด้วยการรับสภาพถูกฟ้องล้มละลาย ทำให้นักลงทุนสูญเสียทั้งดอกเบี้ยและเงินต้นได้
ซึ่งนี่ก็คือเรื่องราวน่ารู้สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะลงทุนในหุ้นกู้ โดยคุณควรยึดหลักการกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน รวมถึงการตรวจสอบอันดับเครดิต อย่ามองแค่ผลตอบแทนเพียงอย่างเดียว เพราะมันอาจเป็นหนทางนำไปสู่การศูนย์เสียเงินจำนวนมากได้ค่ะ